NEWS UPDATE • STOCK-DERIVERTIVE

ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 300 จุด จากความวิตกเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก หลังเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ธ.ค. 2565

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,027.49 จุด ร่วงลง 348.99 จุด หรือ -1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,822.39 จุด ลดลง 56.05 จุด หรือ -1.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,476.12 จุด ดิ่งลง 233.25 จุด หรือ -2.18%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐท่ามกลางความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด

          ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 427.26 จุด ลดลง 4.18 จุด หรือ -0.97%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,517.97 จุด ลดลง 62.27 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,914.07 จุด ลดลง 183.75 จุด หรือ -1.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,469.28 จุด ลดลง 28.04 จุด หรือ -0.37%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) โดยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,469.28 จุด ลดลง 28.04 จุด หรือ -0.37%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

          ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 77.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 80.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์วันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะข้อมูลแรงงาน

          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 30.1 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ระดับ 1,795.3 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 57.2 เซนต์ หรือ 2.36% ปิดที่ 23.622 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 17.4 ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 984.6 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,672.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

          ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.25% แตะที่ระดับ 104.4410

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.35 เยน จากระดับ 132.24 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9311 ฟรังก์ จากระดับ 0.9262 ฟรังก์

          นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3656 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3610 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4713 โครนา จากระดับ 10.4252 โครนา

          ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0596 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0613 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2038 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2084 ดอลลาร์