Polygon Layer 2 เบอร์ 1 ในปัจจุบัน
หากติดตามข่าวสารในวงการคริปโทเคอร์เรนซี คำว่า
Layer 2
น่าจะเป็นคำที่เห็นบ่อยขึ้นในช่วงนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเครือข่าย Layer 2
หมายถึงเครือข่ายบล็อกเชนที่ทำงานสนับสนุนเครือข่าย Layer 1
อย่าง Ethereum และเมื่อพูดถึง Layer 2
ที่โดดเด่นที่สุดในปัจจุบันก็คือ Polygon นั่นเอง ดังนั้น
ในบทความนี้เราจะมารู้จักกับ Polygon และวิเคราะห์สาเหตุว่าทำไมมันถึงเป็น Layer
2 ที่ดีที่สุดของ Ethereum ในปัจจุบัน
Layer 2 คืออะไร?
Layer 2
คือเครือข่ายบล็อกเชนที่ถูกสร้างมาเพื่อจัดการธุรกรรมขนาดเล็กแทนเครือข่ายหลักหรือ
Layer 1 เพื่อลดภาระและความหนาแน่นของเครือข่ายหลัก
การทำธุรกรรมผ่าน Layer 2
จะมีหลักการทำงานโดยทั่วไปคล้ายกับ Layer 1 แต่เมื่อถึงเวลาที่กำหนด Layer
2 จะสรุปข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ
ให้อยู่ในรูปแบบที่เรียบง่ายและส่งไปบันทึกบน Layer 1
วิธีนี้จึงทำให้การทำธุรกรรมบน Layer 2 มีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า
และมีความเร็วที่สูงกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ความปลอดภัยจากการทำงานร่วมกับ Layer
1
ปัจจุบัน เครือข่ายบล็อกเชนขนาดใหญ่อย่าง Bitcoin
หรือ Ethereum กำลังประสบปัญหาเครือข่ายขยายตัวตามจำนวนธุรกรรมไม่ทัน
เนื่องจากขีดจำกัดทางเทคนิคของเครือข่าย
ส่งผลให้การทำธุรกรรมบนเครือข่ายล่าช้าและมีค่าธรรมเนียมสูง Layer 2
จึงเกิดขึ้นมาเพื่อลดภาระของเครือข่ายนั่นเอง
Layer 2 มีอะไรบ้าง?
ปัจจุบัน เครือข่ายบล็อกเชนขนาดใหญ่ล้วนมี Layer 2 กันเกือบหมด โดยฝั่ง Bitcoin มี Lightning Network ส่วน Ethereum ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ Active มากที่สุดทำให้มี Layer 2 อยู่ด้วยกันหลายเครือข่าย ได้แก่ Optimism, Arbitrum, Loopring, Immutable X และ Polygon โดยในบรรดา Layer 2 ของ Ethereum เครือข่าย Polygon นับเป็นเครือข่ายที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดที่ระดับ 326 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูลจาก Coinmarketcap ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2022) แล้วทำไม Polygon จึงมีมูลค่าสูงเช่นนี้? เรามาดูสาเหตุกัน
1. Polygon มีความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงมาก เนื่องจาก Polygon
เป็นบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake ประกอบกับการใช้เทคโนโลยี
Zk rollups เพื่อสรุปและส่งธุรกรรมไปยัง Ethereum ทำให้
Polygon มีอัตราการยืนยันธุรกรรมต่อวินาที (TPS)
สูงถึง 7,000 TPS แถมยังมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า
0.1 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม
2. Polygon มีเหรียญประจำเครือข่ายคือ MATIC จากการที่
Polygon ใช้ระบบ Proof-of-Stake ในการยืนยันธุรกรรม
Polygon จึงมีเหรียญประจำเครือข่ายชื่อว่า MATIC
ที่ผู้ถือเหรียญสามารถสร้างรายได้แบบ Passive ผ่านการนำเหรียญมาล็อกไว้ภายในระบบของ
Polygon เพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรม
รักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่าย และรับรางวัลเป็นเหรียญ MATIC
อนึ่ง MATIC มีที่มาจากชื่อเดิมของ
Polygon นั่นคือ Matic Network ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในช่วงแรกที่เปิดตัวเครือข่ายในเดือนตุลาคม
ปี 2017 ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเครือข่ายเป็น Polygon
ในปี 2021 พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ Ethereum
เป็นเครือข่ายที่สามารถเชื่อมต่อกับบล็อกเชนอื่นๆ ได้อีกด้วย
3. Polygon ไม่ได้เกิดมาฆ่า Ethereum แต่มาเพื่อสนับสนุน
ปัจจุบันมีเครือข่ายบล็อกเชนรุ่นใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Solana, Cardano,
Fantom ฯลฯ ที่ถูกเรียกว่า Ethereum Killer เนื่องจากเครือข่ายเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแทนที่
Ethereum แต่ก็ยังไม่มีเครือข่ายไหนที่สามารถเอาชนะ Ethereum
ได้จริง ในขณะที่ Polygon ไม่ได้เกิดมาเพื่อฆ่า Ethereum แต่ถูกสร้างมาเพื่อลดภาระให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทำให้มีคนหันมาใช้ Ethereum เพิ่มขึ้นอีก ส่งผลดีต่อมูลค่าของทั้ง Layer
1 และ 2 เป็นความสัมพันธ์แบบเกื้อหนุนกันอย่างแท้จริง
4. มากกว่า 37,000
แอปพลิเคชั่นถูกสร้างบน Polygon ข้อนี้นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้
Polygon กลายเป็นเครือข่ายอันดับหนึ่งในกลุ่ม Layer
2 เนื่องจากแอปพลิเคชันนับเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการใช้งานบล็อกเชนมากที่สุด
โดยแอปพลิเคชั่นบนบล็อกเชน หรือ Decentralized Application ที่อยู่บน
Polygon มีครอบคลุมตั้งแต่การแลกเปลี่ยน การกู้ยืม NFT
เกม Play-to-Earn และอีกมากมาย
5. Polygon มีพาร์ตเนอร์ระดับโลกมากมาย ทาง Polygon
ยังมีการจับมือกับองค์กรหรือบริษัทระดับโลกมากมายเพื่อเสริมมูลค่าและผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงบน
Polygon ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับ OpenSea,
Starbucks, Mercedes Benz หรือ Meta
สรุป
Polygon คือเครือข่าย Layer 2
ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานของ Ethereum โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้
Ethereum สามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และทำให้คนหันมาใช้ Ethereum กันมากขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ Polygon เป็นเครือข่าย
Layer 2 ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในปัจจุบัน (ข้อมูล ณ
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2022) ได้แก่
ความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า Ethereum อย่างก้าวกระโดด
รวมถึงมีแอปพลิเคชั่นมากกว่า 37,000 แอปฯ ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย
และที่สำคัญคือ การร่วมมือกับองค์กรระดับโลกมากมาย
เพื่อทำให้เกิดการใช้บล็อกเชนของ Polygon ในระดับเศรษฐกิจโลกจริง
อ้างอิง Polygon, MUO, Coindesk,
Entrepreneur