AWARDS • SET AWARDS

BEST SECURITES COMPANY AWARDS รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยม

บทความโดย: Admin

BEST SECURITES COMPANY AWARDS

รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยม

ด้านการให้บริการแก่นักลงทุนบุคคล

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ธิติ ตันติกุลานันท์

ประธานกรรมการบริหาร

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)


ด้วยผลงานการให้บริการแก่นักลงทุนประเภทบุคคลที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยม Best Securities Company Awards ด้านการให้บริการแก่นักลงทุนบุคคล

ธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับเกียรติเป็นอย่างสูง ทั้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจาก วารสารการเงินธนาคาร เพราะรางวัลนี้ บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายจะได้ทุกปี และเคยได้รับรางวัลดังกล่าวมาแล้ว 3 ปีซ้อน ทำให้ทีมงานทุกคนดีใจเป็นอย่างมาก

บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอย่างมาก และในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา กระแสโซเชียลมีเดียมาแรง จนถึงปัจจุบันที่มีการใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าทั้งวิธีการลงทุน การอ่านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ตลอดจนวิธีการรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อนำมาเปรียบเทียบและปรับวิธีการสื่อสารได้อย่างถูกวิธี เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

 

จุดเด่นมัดใจลูกค้า

ดูแล-ให้ความรู้ ตั้งแต่ก้าวแรกสู่โลกการลงทุน

บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย ตั้งสมมติฐานไว้ว่า การลงทุนเป็นเรื่องยาก จึงให้ความสำคัญกับการดูแลใส่ใจลูกค้าตั้งแต่เริ่มเปิดบัญชี ธิติยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตว่า มีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์จำนวนมาก ถัดมา 2-3 ปี ก็พบว่าเมื่อขาดทุนก็หยุดลงทุนส่งผลให้บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นแบบนี้ทั้งอุตสาหกรรม

ดังนั้น จึงได้นำเอาประสบการณ์มาใช้ในการทำงานเพื่อช่วยเหลือลูกค้า ส่งผลให้ในแต่ละปีมีนักลงทุนหน้าใหม่เปิดบัญชีกับบริษัทเฉลี่ย 20,000 บัญชีต่อปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีลูกค้าเปิดบัญชีใหม่แตะ 40,000 บัญชี หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเดือนมกราคม 2564 มีลูกค้าเปิดบัญชีใหม่แล้วกว่า 20,000 บัญชี

ธิติกล่าวว่า บริษัทมีจุดเด่นด้านการให้บริการนักลงทุนทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันที่สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสามารถพัฒนาตัวเองเรื่องการลงทุนได้อย่างต่อเนื่องใน 4 ด้านดังนี้

ประการแรก การดูแลใส่ใจลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่มาเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ลูกค้าสามารถเลือกศึกษาได้ตามไลฟ์สไตล์การลงทุน โดยมีหนังสือเกี่ยวกับข้อมูล เปิดประตูสู่การลงทุนอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด ความสุข คู่การลงทุนที่ส่งผ่านไฟล์ PDF ไปยังอีเมลล์ของลูกค้า ทั้งหมด 3 เรื่องคือ 1.นักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) 2.นักลงทุนแนวเทคนิค (Technical Investor) และ 3.นักลงทุนโมเมนตัม (Momentum Investor)

ประการที่ 2 มีบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ครอบคลุมหุ้นจำนวนถึง 170 ตัว ถือว่ามากที่สุดในอุตสาหกรรม โดยหุ้นที่นำมาวิเคราะห์ข้อมูลผ่านนักวิเคราะห์จะมีความแม่นยำสูง

ประการที่ 3 เน้นรูปแบบออนไลน์ในการสื่อสารกับลูกค้า มีทั้งวิดีโอผ่านช่องทาง Facebook Live และช่องทาง Youtube โดยจัดรายการที่มอบความรู้ให้กับลูกค้าในแต่ละวัน ในปัจจุบัน บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย มีรายการทั้งหมด 3 รายการ ที่โลดแล่นอยู่ในโลกออนไลน์ และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ประกอบด้วย

รายการ KS Forward ช่วง เวลา 08.45-09.45 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ โดยมีรูปแบบรายการที่นำเรื่องราวข่าวสารประจำวันมาขยายความ เช่น อัตราดอกเบี้ย และหากมีบทวิเคราะห์ใหม่จะนำมาพูดคุยในรายการให้ลูกค้าฟัง มีกระแสตอบรับจากลูกค้าเข้าชม ทุกช่องทาง (Facebook, Youtube) เฉลี่ย 20,000 -30,000 ครั้งต่อวัน

รายการ 3 ศาสตร์ ช่วงเวลา 19.30 น. ทุกวันเสาร์ เป็นรายการที่นำหุ้นในกระแสของแต่ละสัปดาห์มาวิเคราะห์โดยนักวิเคราะห์กลยุทธ์มาเล่าให้ฟัง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี โดยมียอดผู้เข้าชม 16,000 ครั้งต่อสัปดาห์

รายการ Stock 101 ช่วงเวลา 19.30 น. ทุกวันศุกร์ ถือเป็นรายการใหม่ล่าสุดที่เริ่มต้นในเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยนำเสนอหุ้นที่น่าสนใจในแต่ละสัปดาห์ และใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุดเหมือนพูดให้คนที่บ้านฟัง มียอดผู้เข้าชม 5,000 - 10,000 ครั้งต่อสัปดาห์

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในรูปแบบ อินโฟกราฟฟิก (Infographic) โดยกระจายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชั่นไลน์ (Line) อินสตาแกรม (Instagram) และ เฟซบุ๊ก (Facebook) เพื่อให้ลูกค้ารับข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้นและหลากหลายช่อง และในเดือนเมษายนนี้จะมีรายการใหม่ที่น่าสนใจให้ลูกค้ารอติดตามอีกด้วย

ประการที่ 4 มีผลิตภัณฑ์การลงทุนครอบคลุมเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้ลูกค้า ทั้งบริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 2,500 บัญชี ขณะที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมซื้อขาย (คอมมิสชั่น) ในอัตราการเดียวกับหุ้นไทย นอกจากนี้ มีหุ้นกู้ และหู้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Note) ตลอดจนการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมที่ครอบคลุม 16 บลจ.

 

ทีมผู้จัดการเงินทุนบุคคล-เทคโนโลยี โดดเด่น

สำหรับการให้บริการลูกค้าเป็นสิ่งที่ บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย พยายามทำให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดทีมเพื่อดูแลให้เหมาะสมและตรงตามไลฟ์สไตล์การลงทุนของลูกค้าแต่ละราย ปัจจุบันลูกค้าสามารถทำการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านผู้จัดการเงินทุนบุคคล หรือ การซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต

การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านผู้จัดการเงินทุนบุคคล บริษัทมีทีมผู้จัดการเงินทุนบุคคลที่มีประสบการณ์และผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ในการให้คำแนะนำด้านการลงทุนทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคเพื่อให้สอดคล้องกับ อัตราผลตอบแทนที่ต้องการและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละรายที่แตกต่างกัน

ส่วนการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพของระบบ การซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่องเพื่อ ความปลอดภัยและตอบสนองการลงทุนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ  และรวดเร็วมากขึ้น โดยบริษัทจะมีทั้งโปรแกรมสำหรับซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์ รวมถึงโปรแกรมสำหรับวิเคราะห์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจแก่ลูกค้าอีกด้วย

ปัจจุบัน บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย มีลูกค้ากว่า 220,000 บัญชี มีการซื้อขายสม่ำเสมอ (Active) สัดส่วน 40% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่มีบัญชีซื้อขายสม่ำเสมอ 35% ขณะที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านช่องทางออนไลน์ 70 % ผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด 30%

ธิติกล่าวว่า ในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ 50% และขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันตัวเลขเริ่มนิ่งแล้ว เนื่องจากมีนักลงทุนบางกลุ่มที่ถนัดส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด โดยช่องทางออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจด้านการลงทุน

 

มุมมองการลงทุนปี 64

อย่ามองข้ามการชะลอตัวของ ศก.

สำหรับทิศทางการลงทุนในปี 2564 ธิติกล่าวว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสภาพคล่องที่มีจำนวนมาก เป็นผลมาจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทำให้นักลงทุนมองข้ามเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการมีวัคซีนป้องกัน ขณะที่ บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย มองว่า ความเสี่ยงยังคงมีอยู่หากวัคซีนมีการล่าช้าไม่ได้มาตามที่คาดไว้จะทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนได้

ภายใต้สถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน และสภาพคล่องที่มีอยู่มาก นักลงทุนต้องหาจังหวะในการลงทุน โดยควรจัดสรรเงิน หรือแบ่งพอร์ตการลงทุน เช่น 70% เป็นการซื้อขายระยะสั้น และ อีก 30% เป็นการลงทุนระยะยาว


รับชมวิดีโอสัมภาษณ์...