THE GURU • CRYPTOCURRENCY

อยากเป็นเจ้าของที่ดินบน Metaverse ต้องทำอย่างไร?

บทความโดย: จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

Metaverse กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์แห่งอนาคตและโอกาสทางเศรษฐกิจที่หลายคนจับตา แต่ว่ายังคงมีสิ่งหนึ่งที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ Metaverse นั่นคือ “ที่ดิน” ใน Metaverse ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้กันว่าที่ดิน หรือ Land ใน Metaverse แท้จริงแล้วคืออะไร ถ้าอยากเป็นเจ้าของต้องทำอย่างไร และที่ดินจะสร้างโอกาสสำหรับการลงทุนให้กับเราได้อย่างไรบ้าง

 

ที่ดินบน Metaverse คืออะไร?

Metaverse คือวิวัฒนาการขั้นต่อไปของอินเทอร์เน็ต โดยจะเป็นโลกเสมือนที่ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้ราวกับว่าอยู่ข้างๆ กัน และสถานที่ที่เราจะสามารถพบกับเพื่อนๆ ของเราใน Metaverse ได้ก็คือที่ดิน (Land) นั่นเอง

แต่ละแพลตฟอร์ม Metaverse อาจมีที่ดินแตกต่างกันออกไปตามแนวคิดของแพลตฟอร์ม หรือบางครั้งก็อาจเรียกด้วยชื่ออื่น เช่น ห้อง (Room), บ้าน (House), โลก (World) ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไร ที่ดินเหล่านี้ผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของสามารถตกแต่ง ทำกิจกรรม ปล่อยเช่า และซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ เพราะที่ดินอยู่ในรูปแบบของ NFT ที่ใช้แสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของและแลกเปลี่ยนผ่านบล็อกเชนได้อย่างอิสระนั่นเอง

 

ตัวอย่างที่ดินบน Metaverse

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า Metaverse ก็มีหลายแพลตฟอร์มเหมือนกับโซเชียลมีเดียที่มีอยู่หลากหลายเว็บไซต์ เช่น Facebook, Twitter, Instragram ฯลฯ ดังนั้น ที่ดินของแต่ละ Metaverse ก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เรามาดูตัวอย่างที่ดินบน Metaverse ที่น่าสนใจต่อไปนี้กัน


1.Decentraland

      Decentraland (MANA) นับเป็นเกม VR เกมแรกๆ ที่สร้างขึ้นบน Ethereum และยังเป็นเกมที่นำระบบ NFT มาใช้กับที่ดิน โดยที่ดินในเกมนี้เรียกว่า LAND ซึ่งแต่ละ LAND จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปทั้งขนาดและที่ตั้ง แน่นอนว่ายิ่งมีขนาดใหญ่หรือตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญของเกมก็จะสิ่งมีราคาสูงขึ้นเท่านั้น


      จากภาพประกอบ ด้านซ้ายคือแผนที่เมือง Decentraland โดยสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในรูปคือที่ดินแต่ละผืน ขณะที่สี่เหลี่ยมสีเขียวขนาดใหญ่คือ Genesis Plaza ที่เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเกมที่มีอาคารต่างๆ ให้ผู้เล่นสามารถเข้าไปทำกิจกรรมได้ ไม่ว่าจะเป็น Trading Centrer, Auditorium, Shopping Center ฯลฯ

      ส่วนภาพด้านขวาคือที่ดินของผู้เล่นที่เปิดให้คนนอกสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ โดยเจ้าของที่ดินสามารถตกแต่งที่ดินตามสไตล์ของแต่ละคนได้อย่างอิสระโดยใช้โทเคน MANA ในการซื้ออาคารและสิ่งของมาตกแต่ง

      นอกจากนี้ เกม Decentraland ยังได้รับความสนใจจากธนาคารระดับโลกอย่าง J.P. Morgan โดยทางธนาคารมองเห็นถึงโอกาสในการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ผ่าน Metaverse จึงมีการลงทุนซื้อที่ดินใน Decentraland เพื่อเปิดเป็น Onyx Lounge ที่นอกจากจะใช้จัดห้องเรียนเกี่ยวกับ Metaverse แล้ว ยังสามารถให้บริการด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโอนหรือกู้ยืมเงินได้อีกด้วย


2.Axie Infinity


      หนึ่งใน GameFi ยอดนิยมอย่าง Axie Infinity แม้จะเป็นเกมคนละแนวกับ Decentraland แต่ Axie ก็ถือเป็น Metaverse ที่มีระบบที่ดินเช่นกัน โดยที่ดินในเกม Axie จะเรียกว่า Terra ซึ่งนอกจากเจ้าของจะสามารถตกแต่งที่ดินได้แล้ว ที่ดินยังมีผลต่อการเล่นเกมอีกด้วย เช่น ไอเทมบนที่ดินบางชิ้นจะช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ Axie จะได้รับหลังจบเกม หรือบางที่จะสุ่มมอบผลผลิตต่างๆ ให้กับผู้เล่นตามระยะเวลาที่กำหนด และบางที่ดินอาจเป็นจุดเกิดของบอสที่เรียกว่า Chimera ที่ผู้เล่นต้องช่วยกันปราบเพื่อรับรางวัลพิเศษอีกด้วย


3.The Sandbox


      The Sandbox เป็นเกม Metaverse ที่มีระบบการเล่นที่ให้อิสระผู้เล่นราวกับเล่นอยู่ในกระบะทรายสมชื่อ โดยเกมนี้มีระบบที่น่าสนใจอย่างระบบที่เปิดให้ผู้เล่นสามารถสร้าง NFT เป็นของตัวเองได้ แต่จุดเด่นจริงๆ ของเกมนี้อยู่ที่ที่ดินในเกม หรือ Land เพราะไม่ใช่แค่การตกแต่งเฉยๆ เท่านั้น แต่เจ้าของที่ดินสามารถสร้างอีกเกมขึ้นบนที่ดินผืนนั้นได้เลย แถมยังสามารถกำหนดกฎการเล่นและรางวัลสำหรับผู้เล่นได้อีกด้วย ดังนั้น The Sandbox จึงมีการจับมือกับบริษัทเกมอย่าง Atari, Ubisoft และบริษัทอื่นอีกมากมาย เพื่อให้บริษัทเกมสามารถเข้ามาสร้างเกมของพวกเขาขึ้นบน The Sandbox ได้นั่นเอง

 

อยากเป็นเจ้าของที่ดิน Metaverse ต้องทำอย่างไร?

สำหรับวิธีการเป็นเจ้าของที่ดินบน Metaverse จะอธิบายโดยยกตัวอย่างของ Axie Infinity ซึ่งแนวคิดหลักๆ จากตัวอย่างสามารถนำไปปรับใช้กับ Metaverse อื่นได้อย่างไม่ยากเย็น ถ้าพร้อมแล้วมาดูขั้นตอนกันเลย

      1. เปิดบัญชีและสร้างกระเป๋า (Wallet) สำหรับ Axie Infinity

      2. ซื้อเหรียญ Ether (ETH) จาก Exchange และโอนเข้า Wallet ที่เตรียมไว้ โดยจำนวน ETH ที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับราคาของ Land ที่จะซื้อ บวกกับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านเครือข่าย Ethereum และค่าธรรมเนียมสำหรับโอนออกจาก Exchange

      3. ไปที่ Axie Infinity marketplace ซึ่งเป็นตลาดหลักของเกม

      4. เลือกเมนู Land และค้นหาที่ดินที่สนใจ

       5. กดปุ่ม Buy และยืนยันการซื้อ

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเป็นเจ้าของที่ดินบน Metaverse ได้ง่ายๆ และวิธีนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กับ Metaverse อื่นได้อย่างไม่ยุ่งยากเช่นกัน เพราะแต่ละ Metaverse ก็จะมี User Interface ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายอยู่แล้ว

สำหรับปัจจัยที่ต้องคำนึงเสมอเมื่อต้องการซื้อที่ดินบน Metaverse คือเครือข่ายที่ใช้สร้าง Metaverse เช่น ถ้าสร้างบน Solana ก็อาจใช้เหรียญ SOL หรือถ้าอยู่บน Bitkub Chain ก็ต้องใช้เหรียญ KUB ในการทำธุรกรรม เป็นต้น

นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมหรือ Gas Fee ของแต่ละเครือข่ายก็จะถูก-แพงต่างกันออกไป การตรวจสอบค่าธรรมเนียมก่อนการทำธุรกรรม หรือการทำธุรกรรมในช่วงที่เครือข่ายมีความหนาแน่นน้อยก็จะช่วยให้ประหยัดต้นทุนไปได้มากเลยทีเดียว

 

ที่ดินบน Metaverse และโอกาสในการลงทุน

ผู้อ่านหลายคนน่าจะสงสัยว่าการเป็นเจ้าของที่ดินบน Metaverse จะสร้างโอกาสสำหรับการลงทุนได้อย่างไรบ้าง ซึ่งสามารถแบ่งรูปแบบการลงทุนกับที่ดินบน Metaverse ออกได้เป็น 2 แบบดังนี้

1.ซื้อเพื่อการเก็งกำไร

      อันนี้จะคล้ายๆ กับการซื้อที่ดินในชีวิตจริงเลย โดยผู้ซื้อคาดหวังว่าที่ดินบน Metaverse จะมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต จึงซื้อและถือไว้จนมีคนต้องการซื้อต่อในราคาที่เราพอใจจึงค่อยปล่อยขาย หรือบาง Metaverse ก็มีระบบปล่อยเช่าหรือประมูลที่ดินสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย

     สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาที่ดินบน Metaverse ก็มีอยู่หลายปัจจัยเช่นกัน ได้แก่ ทำเล โดยถ้าเป็นที่ดินที่มีทำเลใกล้กับสถานที่สำคัญในโลก Metaverse ก็อาจขายได้ราคาดีกว่าทำเลอื่นๆ หรืออาจเป็นเรื่องของคุณสมบัติที่ดิน (ที่จะพูดถึงในข้อถัดไป) เช่น ในเกม Axie Infinity ถ้าเป็นที่ดินที่ให้ไอเทมกับผู้เล่นมากกว่าก็อาจขายได้ในราคาที่ดีกว่า เป็นต้น นอกจากนี้ ชื่อเสียงและความนิยมของแต่ละ Metaverse ก็มีผลต่อราคาที่ดินในนั้นด้วยเช่นกัน


2. ซื้อเพื่อใช้ประโยชน์จากที่ดิน

      แน่นอนว่าที่ดินบน Metaverse ก็คงจะไม่ใช่ที่ว่างเปล่าๆ ไว้ให้ดูเล่นอย่างเดียวแน่ หลายแพลตฟอร์มจึงมีระบบการเล่นที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน ยกตัวอย่าง Axie Infinity ซึ่งที่ดินในเกมจะให้ประโยชน์ต่างๆ กับผู้เล่น เช่น การเพิ่มค่าประสบการณ์ (Exp) เมื่อเล่นเกมจบ ทำให้ทีมของผู้เล่นสามารถพัฒนาได้ไวกว่าคนอื่น หรือที่ดินในเกม The Sandbox ที่เจ้าของสามารถสร้างเป็นอีกเกมขึ้นบนที่ดิน เพื่อดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเล่นและรับรางวัลก็สามารถใช้เพื่อการโปรโมตธุรกิจหรือการโฆษณาผ่าน Metaverse ได้เช่นกัน

 

สรุป

      ที่ดินบน Metaverse ก็คือสถานที่ที่ผู้ใช้สามารถมาพบปะกับเพื่อนๆ และทำกิจกรรมร่วมกันในโลกเสมือนได้ โดยแต่ละ Metaverse ก็จะมีลักษณะของที่ดินแตกต่างกันออกไป และผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินใน Metaverse อาจหาวิธีนำที่ดินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การตกแต่งที่ดินให้ดูน่าสนใจเพื่อใช้ในสำหรับการโฆษณาธุรกิจของตนเอง หรือที่ดินของบาง Metaverse อาจสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของและสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติของที่ดินนี้เองที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการลงทุนแบบเก็งกำไรเกิดขึ้น


จากคอลัมน์ Cryptocurrency วารสารการงเินธนาคารฉบับเดือนสิงหาคม 2565 ฉบับที่ 484



เกี่ยวกับนักเขียน

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตฯ เทคโนโลยีบล็อกเชน

อ่านบทความทั้งหมดของนักเขียน